
ประสบการณ์ผู้ใช้
"การสร้างภูมิคุ้มกันที่สมดุล เป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพ"
จนค้นพบสารสกัดจากพืชธรรมชาติ
ที่มีผลในการปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุลสำเร็จ
"ครั้งแรกของโลก"

การทำงานประจำวันของคนเรานั้น จะมีกระดูกเป็นแก่นของร่างกาย ไม่ว่าเพื่อนๆจะปฏิบัติอิริยาบถแบบไหน โครงสร้างกระดูกก็ขยับหมุนไปตามอิริยาบถนั้นๆ เวลาแก่ตัวมากขึ้นๆ กระดูกถึงก่อเกิดความเสื่อมถอยเป็นปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งคือสภาวะที่กระดูกอ่อนข้อเข่าที่ข้อต่อหัวเข่าเกิดการสึกร่อน อันที่จริงการเสื่อมของหัวเข่านั้นเป็นกันทุกคน แตกต่างที่จะเชื่องช้าหรือว่าเร็วแค่นั้น แต่อย่างไรก็ตามคอนเทนต์นี้ไขความชัดเจนประเด็น โรคข้อเข่าเสื่อม ให้กับเพื่อนๆได้ทราบอย่างสั้นๆ
1.เริ่มต้นรู้จักกับ โรคข้อเข่าเสื่อม
โรคข้อเข่าเสื่อม คือผลมาจากการที่กระดูกอ่อน (Cartilage)ในข้อต่อเสียหาย ภาระหน้าที่ของกระดูกอ่อนเหมือนตัวกันชนป้องกันการถูของ กระดูกขา พอกระดูกอ่อนในข้อเสื่อมเกิดจะการเสียดสีขึ้น โดยเป็นสาเหตุของอาการปวด การเคลื่อนไหวได้ลำบากยากเย็น สภาวะปวดเข่าอักเสบรวมทั้งบวมแดง ภายหลังอาการปวดจะ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มกระทบแก่กิจกรรมประเภทอื่นๆ เช่น เดินขึ้นกระได หรือว่าลุกนั่งเก้าอี้เจ็บ พร้อมทั้งเจ็บมากขึ้นกระทั่งทำให้กระดูกเข่ามีรูปร่างผิดแปลกไป ที่มาของโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น โดยส่วนมากมาจากอุบัติเหตุ การออกกำลังกาย นิสัยประกอบอาชีพไม่ถูกต้อง กิจกรรมอาชีพและการใช้ชีวิตประจำวันหรือการใช้เข่าที่เป็นโทษอย่างยิ่งเช่น การยกวัสดุน้ำหนักมากๆ นั่งพื้นซักผ้า คุกเข่าและการยืนทำงานเป็นเวลานานๆ รวมไปถึงโรคอ้วนลงพุง
2.สาวๆเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม เยอะกว่าชายหนุ่ม
ทั้งนี้ โรคข้อเข่าเสื่อม พบอย่างมากในหมู่คนแก่เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้หญิงจะเป็นมากกว่าสุภาพบุรุษในอัตรา 10:1 เพราะสาวๆจะมีความหนาแน่นของมวลกระดูกต่ำกว่าชายหนุ่ม พร้อมทั้งส่วนมากเพศหญิงจะค่อนข้างเจ้าเนื้อยิ่งกว่าผู้ชาย ขณะที่หญิงช่วงหมดประจำเดือนฮอร์โมนจะถดถอยลง สูญเสียแคลเซียมไปในการทำน้ำนม รวมถึงการตั้งท้องเป็นเหตุให้ร่างกายรูปทรงเปลี่ยนแปลง น้ำหนักเพิ่มยิ่งขึ้น ซึ่งจะเหนี่ยวกระดูกเอวพร้อมทั้งทำให้มีอาการเข่าเสื่อมได้ โดยหากมัวแต่ใฝ่ใจลูกจนละเลยตัวเอง อาจจะส่งผลให้เป็นโรคเข่าเสื่อมยืดเยื้อประจำตัว
3.ความอ้วน เป็นต้นเหตุสำคัญ
โรคอ้วนลงพุง แต่อย่างเดียวก็ส่งผลให้หัวเข่าจะต้องมีภาระรองรับน้ำหนักอย่างสูง อ้วนน้ำหนักเกิน คือการที่มีคอเลสเตอรอลจับตัวอยู่ตามผิวหนังรวมทั้งอวัยวะต่างๆ มากเกินไป ทั้งนี้ครั้นแก่ตัวมากขึ้น ผู้ที่มีน้ำหนักมากจะมีอาการเสื่อมของหัวเข่าที่รวดเร็วมากกว่าคนผอม จากข้อมูลพบว่าเพศหญิงซึ่งมีรูปร่างเลยมาตรฐาน มีโอกาสเสี่ยงเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ราว 4 เท่า ส่วนทางด้านสุภาพบุรุษเสี่ยง โรคข้อเข่าเสื่อม อยู่ที่ 5 เท่า ขนาดน้ำหนักซึ่งมากเป็นปัจจัยเพิ่มการเสื่อมสภาพของหัวเข่า เมื่อเคลื่อนไหวยุ่งยากก็ไม่อยากออกกำลังกลับกลายความประพฤติที่ผิดรูปแบบอีกทั้งก่อโทษแก่สุขภาพอย่างมากมาย
แม้กระนั้น โรคข้อเข่าเสื่อม สามารถชะลอได้ โดยการคุมน้ำหนักและบริหารร่างกาย ซึ่งเป็น 2 วิธีการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพที่สุด โดยเฉพาะการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ มีส่วนช่วยลดความเสื่อมของหัวเข่าก่อนวัยได้ เนื่องจากส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อตำแหน่งรอบๆ เข่ามีความแข็งแรง มีส่วนช่วยพยุงพร้อมทั้งลดภาระรองรับแรงกดของกระดูกอ่อนน้อยลงได้มากจริงๆ
4.นั่งพื้นส่งผลให้ข้อเข่าเสื่อมได้
ในขนมธรรมเนียมของประเทศไทย ตัวอย่างเช่น การเข้าวัดเข้าวา ฟังเทศน์ฟังธรรม เพื่อนั่งพื้นให้สุภาพต้องนั่งพับเก็บปลายขาให้เป็นระเบียบ แม้กระนั้นการนั่งพื้นพับเข่าทำให้ข้อเข่าเกิดการเสียดสีรวมทั้งมีแรงกดพับในข้อเข่า ซึ่งเป็นต้นเหตุของ โรคข้อเข่าเสื่อม ได้ ดังนั้น แนวทางแก้สำหรับคนซึ่งมีสภาพอาการเจ็บเข่าแล้ว ไม่ควรนั่งพื้นเปล่า ควรหาม้านั่งดีๆ ที่มีพนักพิงรองหลังนั่ง ทางด้านท่านซึ่งยังไม่มีอาการอย่านั่งกับพื้นนานๆ สมควรเปลี่ยนแปลงอิริยาบถหันมายืนและเดินบ่อยๆ
โรคข้อเข่าเสื่อม สร้างผลกระทบกระเทือนเยอะกว่าที่คิด เพราะเมื่อข้อเข่าเสื่อมสภาพมาก จะปรากฏอาการเจ็บ ปวดข้อเข่า มีผลให้ทำงานบางอย่างมิได้ ส่วนทางด้านผู้คนที่มีอาการเข่าเสื่อมมักพยายามเลี่ยงไม่ให้ข้อเข่ารับแรงกด กิริยาอาการการเดิน หรือการก้าวขึ้นลงกระไดจึงผิดจากความเป็นจริงไป แรงกดจึงไปลงตำแหน่งประเภทอื่นๆ ของสรีระ ทำให้ปวดข้อเท้า เจ็บกล้ามเนื้อแผ่นหลัง และสะโพกแทนได้ เพราะฉะนี้ ปัจจัยสำคัญคือ ควรเข้าใจภาวะของโรคข้อเข่าเสื่อม ต้องรู้วิธีการกระทำท่าทางต่างๆ นานา อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงเป็นประจำ
Tags : ข้อเข่าเสื่อม